ป้อมฮวาซอง














ป้อมฮวาซอง (Hwaseong Fortress)

ป้อมฮวาซอง เป็นป้อมที่ตั้งตะหง่าน มีอายุมากว่า 200 ปี ย้อนอดีตกลับไปป้อมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชองโจ กษัตริย์องค์ที่ 22 แห่งราชวงศ์โชซอน พระองค์ทรงต้องการสร้างป้อมแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการย้ายหลุมศพของพระบิดา Sado Seja จากภูขาBeabongson มาที่ Hwaseong ในซูวอน และต้องการสร้างเมืองหลวงขึ้นมาใหม่ เพื่อเสริมความยิ่งใหญ่ของความเป็นกษัตริย์ ป้อมฮวาซองนี้เริ่มต้นสร้างในปีค.ศ.1794 และเสร็จในปีค.ศ.1796 ซึ่งในการในการสร้างป้อมแห่งนี้ได้ใช้วิทยาการการก่อสร้างระหว่าง วิธีของชาวตะวันตก และ วิธีของชาวตะวันออกผสมผสานเข้าด้วยกัน คือมีการใช้ทั้งหิน ปูนและก้อนอิฐ มาสร้างร่วมกันเป็นส่วนประกอบของป้อมและกำแพง และได้มีการใช้ปั้นจั่นเป็นครั้งแรกในการก่อสร้าง ซึ่งถือว่าทันสมัยสุดๆ ในยุคนั้น ทำให้โครงสร้างของป้อมมีความมั่นคงและแข็งแรงเป็นอย่างมาก ตัวป้อมฮวาซองนี้มีการสร้างในลักษณะ ทอดตัวยาวไปตามแนวไหล่เขาและที่ราบของภูเขา โอบล้อมเมืองซูวอนไว้เป็นรูปวงไข่ขนาดใหญ่ หรือบ้างก็ว่าดูเหมือนรูปดอกไม้ โดยมีความยาวถึง 5.5 กิโลเมตร ป้อมฮวาซองนี้จะมีป้อมต่างๆ ตั้งเรียงรายอยู่ตามแนวกำแพงอยู่กว่า 50 ป้อม แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 48 ป้อม เพราะบางส่วนถูกทำลายไปเมื่อสมัยญี่ปุ่นเข้ามาครอบครอง สมัยเกิดสงครามเกาหลี การที่จะเดินเที่ยวป้อมฮวาซองจนทั่วนั้นอาจจะต้องใช้เวลาเดินกินเวลาและแรง กายหลายชั่วโมงอยู่ ฉะนั้นนักท่องเที่ยวที่จะชมแนวกำแพงขึ้น ไปยังป้อมใกล้ๆ ต้องใช้บริการรถไฟหัวมังกรสีแดงๆ ที่มีไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมความงามของป้อมฮวาซองโดยรอบๆ รถไฟพานักท่องเที่ยววิ่งไปตาม ทางแนวป้อมปราการต่างๆ ที่ตั้งเรียงรายอยู่ เพื่อที่จะได้ชื่นชมกับป้อมปราการแต่ละป้อมที่มีความยิ่งใหญ่ และดูงดงามแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก หน้าป้อมฮวาซองนั้น มีสนามยิงธนูให้นักท่องเที่ยวได้ลองยิงธนูประลองความแม่นยำกันด้วย ซึ่งการยิงธนูนี้ถือว่าเป็นกีฬาโบราณที่ชาวเกาหลี ได้ทำการอนุรักษ์ไว้ ซึ่งการยิงธนูนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะคนยิงต้องมีพลังกำลังที่ดี และมีสมาธิที่ดี ที่จะปล่อยลูกธนูออกไปให้ถูกเป้าหมาย ทำให้ นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาส เล่นกีฬาชนิดนี้ ได้ฝึกสมาธิไปในตัวอีกด้วย

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

1 ความคิดเห็น:

UltarjanG กล่าวว่า...

อ๋อๆ

ที่เขาสร้างตอนมูยุนบุก

55+

แสดงความคิดเห็น